ศาสนาชินโต




             ลัทธิชินโตถูกจัดให้เป็นลัทธิบูชาเทพเจ้าหลายองค์ หรือ พหุเทวนิยม และลัทธิบูชาภูตผีวิญญาณ ที่เน้นความบริสุทธิ์ของพิธีกรรมเป็นอย่างมาก รวมถึงยกย่องเกียรติและความมีตัวตนของเทพเจ้า  ซึ่งมีทั้งเทพเจ้าที่มีมาจากการ ยกบุคคลให้เป็นเทพ บุคคลที่ได้รับการยกย่องเป็นเทพเจ้า คือพระจักรพรรดิ วีรบุรุษทั้งหลาย หรือการบูชาธรรมชาติ และเทพเจ้ายังสามารถมีลูกได้ด้วย ลัทธิชินโตเป็นลัทธิที่ให้ความสำคัญกับพิธีกรรมทางศาสนาเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นวิธีที่จะทำให้ศาสนิกชนเข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับเทพเจ้าได้มากที่สุด ลัทธิชินโตยุคใหม่ไม่มีสถาบันที่ที่ยกตัวเป็นผู้ควบคุมส่วนกลาง มีเพียงแต่กลุ่มคนที่พยายามรักษาวิถีปฏิบัติของลัทธิชินโตมาตั้งแต่สมัยบรรพกาลจนถึงปัจจุบัน
ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ชินโตได้ถูกยกเลิกจากการเป็นศาสนาประจำชาติ ซึ่งในปัจจุบันชินโตเริ่มลดหายไปจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยที่ยังเห็นได้ในปัจจุบันได้แก่ โอมิคุจิ  (การดึงฉลากเสี่ยงโชคในศาลเจ้าชินโต) และการเฉลิมฉลอง งานปีใหม่ญี่ปุ่น ที่มีจัดขึ้นตามศาลเจ้าชินโต

ความหมายของศาสนา

           
             “ชินโต” มาจากอักษรจีนสองตัว คือ "เชน" (Shen) แปลว่า "เทพทั้งหลาย" ส่วน "โต" หรือ "เต๋า" (Tao) แปลว่า "ทาง" รวมความแล้วแปลว่า "วิถีทางแห่งเทพทั้งหลาย"
ชินโตของญี่ปุ่นมีตำนานความเชื่อว่า เทพเจ้ามีมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งในป่า บนภูเขา ทะเล แม่น้ำ ลำธาร ในสายลม แม้แต่ในบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นาในธรรมชาติที่ที่มีความบริสุทธิ์ล้วนเป็นที่สถิตของเทพเจ้าได้ทั้งสิ้น จึงมีคำที่ว่า "เทพแปดล้านองค์"  เป็นการรวมคำเพื่อแสดงว่ามีทวยเทพอยู่มากมาย

สัญลักษณ์ศาสนา

1.ประตูโทริอิ (Torii) คือประตูอันมีเสา 2 เสา มีไม้ 2 ท่อนขวางอยู่ข้างบน เป็นเครื่องหมายแสดง บริเวณศาลเจ้าของชินโต



ที่มา : https://files.sirclocdn.xyz/japantrips/blog/

2.ซานชูโน-ซิงกิ ประกอบด้วยของ 3 อย่างคือ
           กระจก เป็นเครื่องหมายแห่งปัญญา
           ดาบ เป็นเครื่องหมายแห่งความกล้าหาญ
           รัตนมณี เป็นเครื่องหมายแห่งการบำเพ็ญประโยชน์

กำเนิดศาสนา

           ศาสนาชินโต เกิดขึ้นเนื่องจากเมื่อญี่ปุ่นติดต่อกับจีนได้รับพระพุทธศาสนาและศาสนาขงจื้อเข้ามาผสมกับความเชื่อดั้งเดิมของตนจึงเรียกรวมว่าชิน - เต๋า หรือ ชินโต แปลว่าทางแห่งเทพเจ้าภาษาญี่ปุ่นเรียก  คามิ - โน - มิชิ 
บ่อเกิดของศาสนาชินโตมาจากประเพณีบูชาบรรพบุรุษ และการครองชีวิตโดยปฏิบัติตามการนำทางของเทพเจ้า
 เกี่ยวกับเทพนิยายลึกลับซับซ้อน ในนิทานและพงศาวดารของญี่ปุ่น

ตำนานเทพชินโต

            ตำนานเทพนิยายของชินโตจะถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โคะจิคิมันเป็นรูปเขียนของเหตุการณ์ที่นำไปสู่และรวมถึงการสร้างของหมู่เกาะญี่ปุ่น มีคำแปลหลายเรื่องที่อยู่กับรูปแบบของความซับซ้อน
อิซะนะงิ - (ชาย) และ อิซะนะมิ(หญิง) โดยทั้งหมดถูกเรียกว่าพระเจ้ามากมายและขอให้ช่วยกันเพื่อสร้างที่ดินใหม่
ซึ่งจะเป็นญี่ปุ่น พวกเขาได้รับหอกกับที่พวกเขากวนน้ำและเมื่อน้ำออกจากปลายไหลไปทั่ว, เกาะถูกสร้างขึ้นในความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่ พวกเขาอาศัยอยู่บนเกาะนี้และได้สร้างพระราชวังและภายในมีเสาขนาดใหญ่ เมื่อพวกเขาประสงค์ที่จะแบกลูกหลานของพวกเขาทำพิธีบูชาเสาแต่ละปัดเศษเป็นชายและหญิงซ้ายไปขวา, หญิงทักทายชายแรก พวกเขา 2 คน (เกาะ) ที่เปิดออกอย่างรุนแรงและพวกเขาโยนพวกเขาออก พวกเขาได้ตัดสินใจที่พิธีทางศาสนาได้ทำไม่ถูกต้องครั้งแรก พวกเขาซ้ำพิธีทางศาสนา แต่ตามกฎหมายที่ถูกต้องของธรรมชาติทั้งชายพูดก่อน พวกเขาก็ให้เกิด 8 หมู่เกาะที่สมบูรณ์แบบของหมู่เกาะญี่ปุ่น
หลังจากที่เกาะที่พวกเขาให้กำเนิดอื่น ๆ คามิ,อิซะนะมิ ตายและ อิซะนะงิ พยายามทำให้เธอฟื้นความพยายามของเขาที่จะปฏิเสธกฎหมายของชีวิตและความตายมีผลไม่ดี
เกาะญี่ปุ่นจะได้รับการพิจารณาเป็นสวรรค์ของพวกเขาถูกสร้างขึ้นโดยตรงจากพระเจ้าสำหรับประชาชนชาวญี่ปุ่นและสร้างเป็นอาณาจักรญี่ปุ่น ชินโตเป็นพื้นฐานการเชื่อมต่อระหว่างอำนาจและความงามของธรรมชาติและชาวญี่ปุ่น มันคือการประกาศของเส้นทางไปสู่ความเข้าใจสถาบันของอำนาจศักดิ์สิทธิ์
         

  เทพเจ้าของศาสนาชินโต

1. เทพผู้สร้างสูงสุด คือ อามาเตระสุ-โอมิคามิ หรือสุริยเทพี กับซีกิโยมิ หรือจันทรเทพ


ที่มา : http://fc06.deviantart.net/

2. เทพประจำสิ่งต่างๆในธรรมชาติ ที่มนุษย์ชื่นชอบหรือเกรงกลัว รวมทั้งวิญญาณที่มีอำนาจบันดาลให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น หรือคามิ
3. มนุษย์ที่ทำความดี เมื่อสิ้นชีวิตแล้ว ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์

ศาสดาของศาสนา

           ศาสนาชินโตไม่มีศาสดา แต่มีจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ที่สืบสายเลือดมาจากเทพ เป็นประมุขของศาสนา ก่อตั้งจัดอยู่ในประเภท หลักธรรมสำคัญ เทวนิยม บูชาเทพเจ้า เชื่อถือเวทมนตร์ คาถา บูชา ธรรมชาติ บรรพบุรุษ

จำนวนผู้นับถือศาสนา

ประมาณ 4,000,000 คน (ปี ค.ศ.2005)

ศาสนาชินโตในปัจจุบัน

          ปัจจุบัน ทำประเทศให้ทันสมัยอย่างประเทศตะวันตก ชินโต เป็นศาสนาของชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะนอกประเทศผู้นับถือส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีเชื้อสายญี่ปุ่นที่ไปตั้งรกรากในประเทศนั้น ๆ เช่น ที่ไปนมัสการไม่น้อยกว่าปีละ 80 ล้านคนในช่วง ฮาวาย บราซิล และ ออสเตรเลีย เป็นต้น
เนื่องจากญี่ปุ่นได้พ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพสัมพันธมิตรจึงประกาศยุบศาสนาชินโต แห่งรัฐ  เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2488 แต่เรียวหะ ชินโต หรือ ชินโตของราษฎรเนื่องจากไม่มีกิจกรรมเกี่ยวกับสงครามและราชการจึงยังคง ดำเนินประกอบพิธีกรรมได้ตามศรัทธา
เนื่องจากญี่ปุ่น ต้องการปรับปรุง พัฒนาประเทศให้ทันสมัยอย่างประเทศตะวันตก ได้ละทิ้งชินโต อันเป็นรากเหง้า แห่งวัฒนธรรมในอดีตของตนเสีย แต่ศาลเทพเจ้าก็ยังมีผู้คนเข้าไปนมัสการไม่น้อยกว่าปีละ 80 ล้านคนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปัจจุบันมีผู้นับถือศาสนาชินโตประมาณ 3.2 ล้านคน ปี 1957 มีผู้นับถือศาสนาชินโต มีผู้นับถือศาสนาชินโตในญี่ปุ่น 79 ล้านคน

ศาลเจ้าชินโต

           อันดับแรกของการสักการบูชาเทพเจ้าหรือคามิสามารถปฏิบัติได้ที่ศาลเจ้าสาธารณะหรือศาลเจ้าเล็กๆไว้ที่บ้านหรือที่เรียกว่า คามิดานะ ศาลเจ้าสาธารณะเป็นสิ่งปลูกสร้างไว้เพื่อทำพิธีบูชาสำหรับคามิ จำนวนที่น้อยลงของศาลเจ้านี้ยังมีสถานที่ธรรมชาติที่เรียกว่า โมริ ส่วนที่พบมากที่สุดของโมริเป็นสวนศักดิ์สิทธิ์ของต้นไม้หรือภูเขาหรือน้ำตก ศาลเจ้าทั้งหมดจะเปิดให้ประชาชนเข้ามาทำพิธีบางครั้งหรือตลอดทั้งถึงแม้ว่าศาลเจ้าสาธารณะมากมายจะมีโครงสร้างที่มีความประณีตทั้งหมดเป็นสถาปัตยกรรมรูปแบบเฉพาะของญี่ปุ่นซึ่งแตกต่างไปตามยุค                      ด้านหน้าของศาลเจ้าจะมีเสาประตูญี่ปุ่นขนาดใหญ่ซึ่งมีความเด่นเป็นพิเศษทำจากประตูสลักแบบตั้งสองชิ้นซึ่งแบ่งเป็นช่องธรรมดาและช่องศักดิ์สิทธิ์ ประตูโทริอิมีถึง 20 รูปแบบและเข้ากับฐานโครงสร้างบูชาเทพเจ้าและราชวงศ์      ซึ่งบริเวณหน้าเสาโทริอิจะมีรูปปั้นสิงโตชิสะอยู่เพื่อปกป้องวัดจากความชั่วร้าย

คำสอนของศาสนา

         คำว่า “ชินโต” แปลว่า วิถีของพระเจ้า คำสอนจึงมุ่งให้บุคคลปฏิบัติตนตามทางของสวรรค์ ภักดีต่อพระเจ้า ซึ่งหมายถึงธรรมชาติรอบตัวมนุษย์ ศาสนาชินโตยึดถือคำสอนสืบเนื่องมาจากศาสนาเต๋าและขงจื๊อหลายประการ

จุดมุ่งหมายสูงสุด

             ในศาสนาเทวนิยมส่วนมากสอนว่า จุดหมายปลายทางของชีวิต คือ พระเจ้า แต่ชินโตแม้จะกล่าวว่าวิญญาณเป็นอมตะ คนตายเท่ากับการเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่ ชินโตก็มีการเซ่นสรวงดวงวิญญาณตามโอกาส


ความเชื่อของศาสนา


สิ่งที่ไม่บริสุทธิ์และสิ่งที่บริสุทธิ์


               ชินโตสอนว่าการกระทำของคนเราทุกอย่างจะสร้างชนิดของความบริสุทธิ์และความไม่บริสุทธิ์ที่หนึ่ง          ควรต้องการทำความสะอาดเพื่อความสงบสุขของตัวเองหนึ่งของความคิดและความโชคดีไม่ได้เพราะไม่ถูกต้องในสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์และของตัวเอง กระทำผิดจะเรียกว่า คีกาเระ ซึ่งแปลว่าไม่บริสุทธิ์ ตรงกันข้ามคำว่า   คิโยเมะ โดยวันที่ไม่สำคัญจะเรียกว่า "วัน"(คี) และส่วนในช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญจะใช้คำว่า "แสงแดด" ซึ่งอาจมีความหมายว่า สิ่งที่เป็นมงคลนั่นเอง

                 ผู้ที่ถูกฆ่าตายโดยปราศจากการแสดงความกตัญญูเพื่อพิธีกรรมสังเวยของพวกเขาจะทำให้อดกลั้นต่อความเสียใจเปรียบเสมือนเทพเจ้าอูรามิและกลายเป็นความชั่วร้ายที่มีประสิทธิภาพและอาจจะทำให้เทพเจ้าทรงกริ้วและพยายามที่พยายามแก้แค้น นอกจากนี้หากใครได้รับบาดเจ็บหรือเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ของศาลเจ้าชินโต  ผู้นั้นต้องทำพิธีเพื่อให้วิญญาณบริสุทธิ์

แนวคิดเกี่ยวกับความตาย
           
         ชินโตไม่พูดถึงเรื่องโลกหน้า เชื่อว่า วิญญาณเป็นอมตะ ความตายเป็นเสมือนการเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่ดวงวิญญาณจะคอยปกป้องวงศ์ตระกูลของตนอยู่เสมอ
เป็นเรื่องปกติสำหรับครอบครัวที่จะเข้าร่วมในพิธีสำหรับเด็กที่ศาลเจ้า ยังมีงานศพแบบญี่ปุ่นที่เป็นเวลาแห่งความตาย แต่แนวคิดในด้านของชีวิตภายหลังการมรณะของชินโต อาจจะไม่ได้เปิดมุมคมชัดแบบของพุทธ ในตำนานเก่าของญี่ปุ่นก็มักจะอ้างว่าคนตายไปที่สถานที่ที่เรียกว่า โยมิ ดินแดนใต้พิภพเป็นแผ่นมืดมนกับแม่น้ำแยกชีวิตจากความตาย ซึ่งปกครองโดย อิซะนะมิ เทพมารดรผู้เป็นนายเหนือแห่งดินแดนยมโลก

 สถานภาพของสตรี

           ศาสนาชินโตสอนให้ผู้หญิงเคารพผู้ชาย ส่วนผู้ชายก็ให้คุ้มครองผู้หญิง และต่างฝ่ายต่างต้องรักและสามัคคีกัน

ข้อปฏิบัติตามศาสนาชินโต 

 จงรักภักดีต่อเทพเจ้า ต่อจักรพรรดิและปฏิบัติตามหลักจริยธรรมเพื่อบำเพ็ญความดีสูงสุด 4 ประการ คือ


           1. ให้มีความคิดเบิกบาน

           2. ให้มีความคิดบริสุทธิ์

           3. ให้มีความคิดถูกต้อง

           4. ให้มีความคิดเที่ยงตรง


การบูชาธรรมชาติ

           คนญี่ปุ่นเชื่อว่า เทพแห่งพระอาทิตย์ทรงสร้างเกาะญี่ปุ่น และธรรมชาติทั้งหลาย เช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ มหาสมุทร แม่น้ำ ภูเขา น้ำตก ต้นไม้ สิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง จึงมีฐานะสูงควรแก่การเคารพบูชา
           ในเรื่องจักรวาล ชินโตสอนว่า กามิหรือเทพเจ้าเป็นเจตภูตที่ไม่มีรูปร่าง ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นนิรันดร กามิเป็นเทพเจ้าในธรรมชาติ เหตุการณ์ต่างๆ ในจักรวาลมาจากการบันดาลของกามิ กฎแห่งธรรมชาติทั้งปวงคือ ทางแห่งเทพเจ้า

การบูชาจักรพรรดิ

           คนญี่ปุ่นบูชาจักรพรรดิ เพราะถือว่าเป็นผู้สืบสายมาจากดวงอาทิตย์โดยไม่ขาดสาย

การบูชาบรรพบุรุษ

           เชื่อว่า คนญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันสืบเชื้อสายมาเป็นสายเลือดเดียวกัน การบูชาบรรพบุรุษของญี่ปุ่น มีทั้งบรรพบุรุษของครอบครัวและบรรพบุรุษของชาติ

การบูชาผู้กล้าหาญ

           ญี่ปุ่นเป็นคนรักชาติมาก ผู้ใดอุทิศชีวิตให้ชาติ วิญญาณของผู้นั้นจะได้รับการยกย่อง ทหารญี่ปุ่น จึงรบด้วยความกล้าหาญ เพราะรู้ว่า ถ้าตายก็จะมีผู้เคารพบูชา
           คำสอนเหล่านี้มีผลทำให้คนญี่ปุ่นเป็นคนรักชาติ รักบรรพบุรุษของตนอย่างยิ่ง เกิดเป็นหลักธรรมประจำใจที่เรียกว่า บูชิโด ซึ่งเป็นวินัยของนักรบในกลุ่มชาวญี่ปุ่น

  ระบบคุณธรรม 

           1.ความกล้าหาญ ให้กล้าหาญที่จะมีชีวิตอยู่และไม่กลัวตาย
           2.ความขลาด ความขลาดถือว่าเป็นบาป จึงมีคติว่า บาปทุกอย่างนั้นจะได้รับอภัยเมื่อสำนึกผิด ยกเว้นความขลาดกับการลักขโมย
           3.ความจงรักภักดี ชินโตสอนให้จงรักภักดีต่อจักรพรรดิเป็นอันดับหนึ่ง อันดับต่อมาคือครอบครัวและสังคม
           4.ความสะอาด ความสกปรกเป็นบาป เป็นความผิดต่อเทพเจ้า ผู้ทำตนให้สะอาดเป็นผู้เคารพเทพเจ้า

           จากความเชื่อนี้ การอาบน้ำในสังคมญี่ปุ่นจึงเป็นทั้งพิธีกรรมทำตนให้สะอาด และเป็นพิธีกรรมชำระบาปด้วย

ข้อปฏิบัติต่อสังคม


           • 1. คุณธรรมสูงสุดได้แก่ ความจริง ความซื่อสัตย์และความเคารพต่อบรรพบุรุษและผู้ใหญ่

           • 2. ภักดีต่อจักรพรรดิและราชวงศ์ เคารพบรรพบุรุษและผู้ใหญ่

           • 3. ซื่อสัตย์ต่อเพื่อน รักและสามัคคีกับคนในชาติ รักคนอื่นให้เท่ากับรักตนเอง

           • 4. ผู้เยาว์ต้องอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ ชายต้องซื่อสัตย์ต่อชาติ และหญิงต้องเคารพชาย

           • 5. รักและเคารพบิดามารดา รักและสามัคคีกับคนในครอบครัว

           • 6. ทำงานด้วยความซื่อสัตย์

           • 7. มีความประหยัด

           • 8. อย่าตอบแทนความชั่วด้วยความชั่ว

           • 9. ต่อสู้เมี่อถูกรังแก และแก้แค้นให้ผู้ที่เราเคารพ

           • 10. ไม่กลัวตาย

           • 11. ฝึกตนเองให้มีความคิดเบิกบาน ความคิดบริสุทธิ์ ความคิดถูกต้อง ความคิดเที่ยงตรง

ลัทธิบูชิโด 

คือ ลัทธิที่ยกย่องคนกล้า ซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกว่า "ซามูไร" คำว่า "บูชิโด" แปลว่า "หนทางของอัศวินนักสู้" หลักประพฤติของซามูไรญี่ปุ่นในสมัยนั้น มีดังนี้ คือ


           1. ซามูไรทุกคนจะต้องอยู่ในสังกัดของเจ้านายในระบบศักดินา และจะต้องจงรักภักดีต่อเจ้านายซามูไรจะต้องรำลึกบุญคุณเจ้านายอยู่เสมอและหาทางตอบแทนบุญคุณนั้นให้ได้ เพราะการตอบแทนหนี้บุญคุณถือว่าเป็นความดีสูงสุด พันธะหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับเจ้านายเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าครอบครัว และครอบครัวของซามูไรทุกคนจะต้องสนับสนุนการกระทำของพวกเขาจึงจะได้รับยกย่องจากสังคม

           2. ซามูไรจะต้องเป็นผู้มีความกล้าหาญ ไม่กลัวความตาย การตายที่มีเกียรติของซามูไรคือ การทำฮาราคิริ (Harakiri) หรือเซ็ปปุกุ (Seppuku) การตายแบบนี้เป็นการแสดงความกล้าหาญอย่างสูง ที่จะต้องเผชิญกับความเจ็บปวด โดยการใช้มีดสั้นแทงที่หน้าท้องใต้เอวขวา กรีดมาทางซ้าย แล้วดึงมีดขึ้นข้างบน เป็นการเปิดช่องท้อง และตัดลำไส้ให้ขาด

           3. ซามูไรจะต้องยอมตายเพื่อรักษาเกียรติ

           4. ซามูไรจะต้องจงรักภักดี อ่อนน้อมถ่อมตนต่อเจ้านาย

           5. ซามูไรจะต้องมีความเที่ยงธรรม มีเมตตา รักความยุติธรรม และช่วยเหลือผู้ตกทุกข์



ที่มา :  https://www.unlockmen.com/


คัมภีร์ของศาสนาชินโต


 1. คัมภีร์โคยิกิ (Ko-Ji-Ki) เป็นจดหมายเหตุโบราณ รวบรวมขึ้นในปีพ.ศ. 1255 บันทึกจากคำท่องจำ เนื้อหาเริ่มจากตำนานการเกิดของเกาะญี่ปุ่น เป็นการตีความเทพนิยายและตำนานเก่าๆ เริ่มตั้งแต่การกำเนิดของพระเจ้า บรรยายเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์นับแต่จักรพรรดิองค์แรก คือ ยิมมู (พ.ศ. 1171) จนถึงสมัยที่มีการรวบรวมคัมภีร์โคยิกิขึ้น และกล่าวถึงพิธีกรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ข้อห้าม การปฏิบัติต่อเทพเจ้าต่างๆของชาวญี่ปุ่นโบราณ

2. คัมภีร์นิฮองงิ (Nihongi) แปลว่า จดหมายเหตุ ประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น แต่งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1263 ซึ่งเป็นเวลาที่ญี่ปุ่นเริ่มติดต่อกับยุโรปและชาวญี่ปุ่นเริ่มเกิดสำนึกทางชาตินิยมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ถือว่าเป็นวรรณคดีชั้นสูง เขียนด้วยอักษรภาษาจีนล้วน กล่าวถึงเรื่องของพระเจ้าตามเทพนิยายดั้งเดิมมาเหมือนกันถึงสมัยจักรพรรดินีบีโด (พ.ศ. 1350) เล่มนี้ เและบรรยายเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ระบุอำนาจของจักรพรรดิ กำหนดให้ประชาชนเคารพและจงรักภักดีต่อจักรพรรดิ วันประสูติของจักรพรรดิถือเป็นวันสำคัญที่สุด

 3. เยนงิ - ชิกิ (Yengi - Shiki) เป็นบทสวดและพิธีกรรมในสมัยเยนงิ (ระหว่าง พ.ศ. 1444 - 1566) อธิบายเรื่องพิธีกรรมต่าง ๆในสมัยโบราณ และบทสวด (Nori - to)

 4. มันโย - ชิว (Munyo - Shiu)ประกอบด้วยคำโคลงบรรยายการเกิดของสวรรค์ การที่สุริยเทพทรงสร้างเกาะญี่ปุ่น เป็นต้น

นิกายของศาสนา


           ปัจจุบันนี้ยังคงมีชาวญี่ปุ่นที่นับถือชินโตอยู่มากความเป็นชินโตอยู่ในลักษณะของจิตสำนึก และอยู่ในรูปของวัฒนธรรมญี่ปุ่น

           1. ชินโตแห่งราชสำนัก (Shinto of the Imperial House) ชินโตกลุ่มนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่การประกอบพิธีกรรมถวายดวงวิญญาณของบรรพชนของพระจักรพรรดินับตั้งแต่สมัยโบราณเป็นต้นมา โดยพระจักรพรรดิจะเป็นผู้ทรงประกอบพิธีกรรม ในปัจจุบันประเพณีนี้ยังมีอยู่ รัฐรับรองและสนับสนุนและวางข้อบังคับให้นักบวชซึ่งเป็นคนของราชการปฏิบัติกิจเฉพาะทางราชการ แต่ไม่ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม

           2. ชินโตศาลเจ้า (Shrine Shinto) ชินโตกลุ่มนี้เป็นการผสมผสานระหว่างความเชื่อแบบชินโตในสมัยโบราณกับความเชื่อแบบชินโตในปัจจุบัน ระบบความเชื่อและพิธีกรรมของทั้งสองแบบถูกนำมาปฏิบัติร่วมกันที่ศาลเจ้าเพื่อบูชาเทพเจ้า ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของกามิและเป็นที่สำหรับสวดมนต์ภาวนา

           3. ชินโตนิกาย (Sect Shinto)หมายถึง กลุ่มกระบวนการทางศาสนาที่อิงอยู่กับศาสนาประจำชาติของญี่ปุ่น แต่แยกเป็นนิกายต่างๆกันซึ่งส่วนมากมีกำเนิดในศตวรรษที่18 จนถึงช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 อันเป็นช่วงสุดท้ายของยุคเอโด ที่มีระบบการปกครองแบบเจ้าขุนมูลนาย จนกระทั่งถึงช่วงต้นของยุคเมจิ รัฐบาลของยุคเมจิที่เกิดขึ้นใหม่ได้สร้างชินโตของรัฐขึ้นมา และให้กลุ่มศาสนาเหล่านี้อยู่ภายใต้การปกครองของชินโตของรัฐโดยอนุญาตให้ทำพิธีกรรมต่างๆ ลักษณะของชินโตกลุ่มนี้คือ ความสนใจเกี่ยวกับปัญหาในชีวิตประจำวันและสวัสดิภาพของมนุษย์ในโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะในชุมชนชาวกสิกรรม

           4. ชินโตพื้นบ้าน (Folk Shinto) ชินโตกลุ่มนี้นำเอาความคิดของพุทธศาสนา ศาสนาเต๋า และศาสนาขงจื๊อ มาผสมผสานกับความเชื่อแบบชินโต เกิดเป็นแนวคิดแบบไสยศาสตร์ผสมกับหลักปฏิบัติทั่วไปของชาวบ้าน ช่วยเสริมความมั่นคงทางจิตใจ ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยจากอันตราย กลายเป็นวิถีชีวิตประจำวันมากกว่าศาสนา

พิธีกรรม


           ศาลเจ้าชินโตเป็นที่สิงสถิตของกามิ และเป็นที่สำหรับสวดมนต์ อ้อนวอน ถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ นิยมสร้างในแถบชนบท เช่น บนภูเขา น้ำตก หรือบนเกาะ  

           ศาลเจ้าของญี่ปุ่นมีรูปแบบเรียบง่าย ทำด้วยไม้และกระดาษ ทางเข้ามีประตูโทริอิ ที่สร้างด้วยไม้หรือหิน  ภายในศาลเจ้ามีสัญลักษณ์ของกามิคือกระจก แต่บางแห่งอาจจะสร้างรูปเสื้อผ้า หรือดาบ มีที่สำหรับตั้งอาหารเซ่นไหว้ เช่น ข้าว ผัก ปลา เป็ด ไก่ รวมทั้งเหล้าสาเก แต่ต้องไม่เซ่นไหว้ด้วยเลือดเพราะถือเป็นของไม่บริสุทธิ์

           นักบวชของชินโตมีทั้งชายและหญิง นักบวชหญิงจะต้องประพฤติพรหมจรรย์ นักบวชชายบางนิกายมีครอบครัวได้ ส่วนผู้ทำหน้าที่รับใช้ในวัดจะเป็นผู้ชาย และมีหัวหน้านักบวชทำหน้าที่ดูแลศาลเจ้ารวมทั้งเป็นประธานในพิธีกรรมต่าง ๆ
           นักบวชในศาสนาชินโต จะไม่ประกอบพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับความตาย ให้เป็นหน้าที่ของพระในพระพุทธศาสนา ด้วยเหตุนี้ชาวญี่ปุ่นจึงนับถือศาสนาชินโตและศาสนาพุทธไปพร้อมกัน
           ความเชื่อในเครื่องรางของขลัง วิญญาณและไสยศาสตร์เป็นเหตุให้เกิดการสร้างรูปสัญลักษณ์เพื่อเป็นที่พึ่ง ตามบ้านของคนนับถือชินโตจะมีที่บูชาวิญญาณ และปากทางเข้าหมู่บ้านนิยมสลักตุ๊กตาหินกามิเพื่อพิทักษ์รักษาหมู่บ้าน
           จุดมุ่งหมายในการบูชาเทพเจ้า เพื่อให้วิถีชีวิตของผู้บูชาเป็นที่พอใจของเทพเจ้า

วันเทศกาลหรือวันนักขัตฤกษ์ มีขบวนแห่ มีการบรรเลงดนตรีและเต้นรำ พระทำพิธีอ่านบทสวดเบื้องหน้าเทพเจ้าแห่งศาลเจ้าเพื่ออำนวยสิริมงคล
         
พิธีถวายสักการะพระจักรพรรดิที่เป็นองค์บรรพบุรุษ สถานที่ถวายความเคารพซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี คือ วิหารไดจิงจู ตำบลอิเซ (Ise) อันเป็นสถานที่สำคัญที่ประดิษฐานพระคันฉ่อง ซึ่งเชื่อกันว่าสุริยะเทพีได้ทรงประทานให้แก่บรรพบุรุษดั้งเดิมของญี่ปุ่น เชื่อกันว่าอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องเดินทางไปสักการะพระคันฉ่อง เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต

พิธีฉลองเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง ตรงกับวันที่ 23 พฤศจิกายน ในวันนี้แต่เดิมพระจักรพรรดิ์ของญี่ปุ่นทรงเป็นผู้ทำพิธีโดยเซ่นไหว้ด้วยผลไม้และผลผลิตที่ได้จากการเก็บเกี่ยวในครั้งแรก แต่ปัจจุบันนี้นิยมกระทำตามท้องถิ่นต่าง ๆ ในระหว่างเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน

           พิธีชำระล้างบาป มีทั้งหมด 3 ขั้นตอน คือ

           ขั้นที่ 1 พิธีเตรียมตัวให้บริสุทธิ์ (Preliminary purification) หรือ เกสไซ (Kessai) เป็นการเตรียมตัวก่อนประกอบพิธี เพื่อชำระล้างมลทินทางกายโดยไม่รับประทานอาหาร และชำระล้างร่างกายให้สะอาด

           ขั้นที่ 2 พิธีชำระล้างให้บริสุทธิ์ (Purification) หรือ ฮารัย (Harai) เป็นพิธีชำระล้างมลทินและบาปข้างใน ประกอบพิธีโดยนักบวชโดยแกว่งไม้ศักดิ์สิทธิ์เหนือศีรษะหรือเหนือวัตถุสิ่งของที่ต้องการชำระ

           ขั้นที่ 3 พิธีถวาย (Dedication) ในการอุทิศตนจะถวายกิ่งไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นสัญลักษณ์ของการเก็บเกี่ยวครั้งแรก ต่อมาถวายข้าว เหล้า และอาหารต่าง ๆ มีการแสดงดนตรีและการเต้นรำด้วย แล้วจึงมีการอธิษฐาน

           วันปีใหม่ แต่เดิมมาตรงกับเดือนกุมภาพันธ์โดยนับตามปฏิทินจันทรคติ แต่ปัจจุบันฉลองกันตั้งแต่วันที่ 1-6 มกราคมของทุกปี เป็นวันชำระล้างสิ่งสกปรก เช่น บ้านเรือน ร่างกาย และจิตใจ ในวันนี้ทุกคนรื่นเริงแจ่มใส มีการเซ่นไหว้บรรพบุรุษด้วยอาหารพิเศษ และนิยมไปเคารพกราบไหว้ตาม ศาลเจ้าเพื่อขอพร

           วันเด็กหญิง วันที่ 3 มีนาคม ของทุกปี วันนี้เป็นวันรื่นเริงของเด็กหญิง มีการแต่งตุ๊กตาอย่างสวยงามด้วยชุดสมัยโบราณ ครอบครัวที่มีลูกสาวเลี้ยงฉลอง เป็นการให้ความสำคัญแก่เพศหญิง



ที่มา :  https://press.ikidane-nippon.com/


          วันเด็กชาย วันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันที่ครอบครัวแสดงความยินดีต่อการเติบโตของเด็กชายในตระกูล จุดประสงค์หลักของวันนี้เพื่อเตือนให้มีความกล้าหาญ ความเข้มแข็ง และความรับผิดชอบต่อครอบครัว



ที่มา :  http://elheraldoslp.com.

พิธีฮาราอิ

            พิธีบริสุทธิ์เป็นพิธีกรรมที่มักจะทำทุกวันที่ศาลเจ้าชินโตและเป็นพิธีของถวายอาหารและตั้งคำอธิษฐานของหลายรูปแบบชินเซน ยกตัวอย่างอาหารบูชาเช่น อาหารประเภทผลไม้, ปลา, ผัก,ขนมทามากูชิ,ต้นไม้เกลือข้าว, โมชิ และเหล้าสาเก (ไวน์ข้าว) ในวันหยุดและโอกาสพิเศษอื่น ๆ ประตูด้านในศาลเจ้าอาจจะเปิดออกเพื่อให้ผู้ที่นับถือชินโตนำอาหารมาถวาย


ที่มา :  http://www.fukashi-tenjin.or.jp/


ข้อปฏิบัติในการเข้าศาลเจ้า

         ผู้ใดสามารถต้องการเข้าชมศาลเจ้าชินโตที่สำคัญคือไม่จำเป็นต้องนับถือชินโตก็ได้ โดยทั่วไปมีขั้นตอนเบื้องต้นที่ไปที่ศาลเจ้า


วิธีการเข้าและน้อมกราบก่อนที่จะเข้า


ถ้ามีอ่างล้างมือให้ดำเนินการ ไทมิซุ; ล้างมือซ้ายและขวาของคุณในอ่างน้ำก่อนจากนั้นใช้มือทั้งสองข้างของคุณกวักน้ำแล้วล้างปากของคุณ (ไม่ต้องบ้วนลงอ่างน้ำหรือเครื่องดื่ม) และถ้าเท้าของคุณไม่สะอาดให้ล้างเท้าด้วย วิธีทำคือใช้จวักน้ำไปข้างหลังแล้วล้างให้สะอาดเทน้ำทิ้งให้หมดเมื่อใช้เสร็จห้ามใช้มือล้างเด็ดขาด
วิธีการศาล; ถ้ามีกระดิ่ง คุณอาจจะสั่นกระดิ่งก่อนที่จะสวดมนต์ แต่ถ้ามีช่องสำหรับการบริจาคให้บริจาคตามกำลังทรัพย์จากนั้นให้ตบมือสองรอบซึ่งเป็นสัญลักษณ์คันธนูที่มีความเป็นสิริมงคล และยกมือของคุณไหว้สิ่งศักดิสิทธิ์ด้วยหัวใจของคุณที่สำคัญตั้งคำอธิษฐานของคุณ
มีการเปลี่ยนแปลงในวิธีการนี้อาจจะไปเยี่ยมชมขั้นพื้นฐานและขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของปีและวันหยุดที่นั่นอาจจะเป็นพิธีกรรมอื่น ๆ กับการเยี่ยมเยือน
ต้องเคารพด้วยความจริงใจและถ้าเป็นไปได้ควรทำตัวเงียบๆไม่ควรส่งเสียงดัง ไม่ควรสวมรองเท้าเข้าศาลเจ้า

ที่มาของข้อมูล : https://th.wikipedia.org/wiki/
ที่มาของข้อมูล : http://www.crs.mahidol.ac.th/thai/shinto00.htm





รายชื่อสมาชิก

 นางสาวกิ่งกาญจน์       ครุฑกำจร     เลขที่  4
  นางสาวจิตรวี               พุทธศรี       เลขที่  12
   นางสาวชุติกาญจน์       ทากลาง      เลขที่  16
   นางสาวปิ่นชนก            เมืองปิง     เลขที่  41
    นางสาวพิจิตรา              กันทะ        เลขที่  44
       นางสาวพิชญ์สินี           ธนบุญโชค   เลขที่  45
     นายพีรเดช                    อุปละ        เลขที่   46
     นางสาวสโรชา              มูลสุข       เลขที่   62
     นายสิรภพ                     แสนจ๊ะ     เลขที่   63
                   
             



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กิจกรรมที่ 5

01สวยใสจากภายในสู่ภายนอก from Pinchanok Muangping